ยูนิฟอร์ม

สวยแค่ไหนใส่ชุดยูนิฟอร์มก็ดับจะทำอย่างไรดีคะ
ขอสารภาพว่าหนูเกลียดชุดยูนิฟอร์มของบริษัทมากหนูสวยแค่ไหนแต่ใส่ชุดยูนิฟอร์มก็ดับ
ทุกวันที่ออกมาทำงานจะรู้สึกตัวเองไม่สวย รู้สึกอายใส่แล้วดูแก่ เป็นป้าเลยค่ะ เพื่อนที่ทำงานก็ไม่มีใครชอบค่ะ แต่ก็บอกว่าทนๆใส่ไปเถอะ พี่ว่าหนูไร้สาระไปไหมคะ หรือหนูควรทำยังไงดีคะ
 
ตอบ สวยแค่ไหนก็เอายูนิฟอร์มของบริษัทไม่อยู่จริงๆหรือนี่ น่าเห็นใจครับ เอาว่าปัญหาของน้องก็กวนใจน้องอยู่ไม่น้อย
และอาจจะกวนใจเพื่อนพนักงานคนอื่นๆอยู่ ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาไร้สาระหรอกครับ ลองถ้ามันทำให้พนักงานรู้สึกไม่มั่นใจที่จะออกมาทำงาน รู้สึกไม่ภูมิใจในองค์กร
พี่ว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแน่แล้วล่ะครับ เวลาพูดถึงแบรนด์นั้นมันสะท้อนออกมามันไม่ใช่สะท้อนออกมาแค่สิ่งที่เราเห็นในโฆษณา
แต่มันทุกประสบการณ์ที่สื่อออกมาให้เราได้เห็นได้สัมผัสหมด ที่ทำให้เรารู้สึกว่าแบรนด์นั้นเป็นแบรนด์อย่างไร
เชื่ออะไร เกิดมาทำไม ชุดยูนิฟอร์มก็เหมือนกันเป็นหนึ่งในสิ่งที่สะท้อนออกมาว่าแบรนด์นี้เป็นอย่างไร
มันบอกมาผ่านเสื้อผ้าได้เช่นกัน
บางคนอาจจะบอกว่าเสื้อผ้าก็คือแค่เปลือก แต่เปลือกนี่บางทีสะท้อนถึงแก่นเลยด้วยซ้ำ ถ้าดีไซน์ยูนิฟอร์มดูแก่เชย มันก็บอกว่าแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่แก่
เพราะฉะนั้นประสบการณ์ที่มันสื่อมา ผ่านสิ่งที่เราเห็นนี่แหละครับ ที่บอกว่าเราแบนด์เป็นแบบไหน เราถึงได้เห็นหลายแบรนด์พิถีพิถัน กับทุกประสบการณ์ที่ออกไปจากแบรนด์
รวมไปถึงยูนิฟอร์มของพนักงานด้วย บางแบรนด์เอาดีไซเนอร์ชื่อดังมาออกแบบให้เลย มีเปลี่ยนยูนิฟอร์มกันทุกปี กี่ปีก็ว่ากันไป
แต่พี่เข้าใจนะครับว่าไม่ใช่ทุกแบรนด์จะทำแบบนั้นได้เพราะด้วยปัจจัยหลายอย่าง บางบริษัทมีกฎว่าพนักงานทุกคนต้องใส่ยูนิฟอร์ม ก็เพื่อหลอมรวมทุกคนเป็นทีมเดียวกันหมด เป็นการบ่งบอกว่าใครเป็นใคร
เห็นปุ๊บรู้เลยว่าเราเป็นพนักงานของที่ไหน พ่วงด้วยเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร ถ้าทุกคนแต่งตัวเรียบร้อย ใครมาเห็นก็สบายใจ สบายตา
สมมุติว่าน้องเป็นพนักงานธนาคาร ลูกค้าเข้ามาธนาคารแล้วเจอคนที่แต่งตัวน่าเชื่อถือ ก็คงมั่นใจในธนาคารมากขึ้น
สมมุติน้องเป็นพนักงานขายรถสปอร์ต แต่น้องแต่งตัวเหมือนน้องขับรถ Eco Car ลูกค้าก็คงไม่เชื่อถือไปด้วย
สมมุติน้องทำงานอยู่ในเหมือง ก็อาจจะต้องเป็นชุดพนักงานที่สมบุกสมบันสักหน่อย คงไม่เป็นยูนิฟอร์มสีขาวที่ใส่ทำงานไม่ทันไรก็เปื้อนง่าย
เพราะฉะนั้นการใส่ยูนิฟอร์ม มันก็มีเหตุผลของมันอยู่ ถ้ายูนิฟอร์มของน้องว่าแก่แล้วลองคิดเล่นๆว่า
ถ้าน้องต้องมาใส่มาสคอตทำงานทุกวัน หรือต้องแต่งตัวตลกๆมาทำงาน น้องว่าน้องอยากจะใส่มาทำงานไหมครับ
พี่อยากเล่าตัวอย่างหนึ่งให้น้องฟัง น้องรู้จักดิสนีย์แลนด์ใช่ไหมครับ พนักงานในดิสนีย์แลนด์บางคน ต้องแต่งตัวตลกใส่ชุดการ์ตูนใส่ชุดมาสคอต และต้องมาใส่ทุกวัน
เราโตกันขนาดนี้ยังต้องมาใส่อะไรตลกๆ ก็อาจจะดูเขินๆนะครับ แต่น้องลองไปดูพนักงานของดิสนีย์แลนด์เวลาเขาทำงานสิ ต่อให้เขาต้องใส่ชุดที่ประหลาดแค่ไหน
แต่พวกเขาก็มีความสุข เขาทำให้คนที่มามีความสุข มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ เพราะอะไรรู้ไหมครับ
เพราะเขาศรัทธาในแบรนด์ Disney จนลึกไปถึงวิญญาณ จนเขามองข้ามชุดที่ต้องใส่
ความสุขที่เขามี มันสื่อออกมาจนเรารู้สึกว่าแบรนด์นี้เป็นแบรนด์แห่งความสุข แบรนด์แห่งจินตนาการ ชุดก็คือชุด
แต่สิ่งที่สื่อออกมาผ่านคนนั้นต่างหาก ที่ทำให้แบรนด์นั้นมีชีวิตชีวา
พี่เคยดูคลิปหนึ่งแล้วประทับใจพนักงานดิสนีย์มาก มันเป็นคลิปก่อนที่เขาจะเดินพาเหรดกันตอนเย็น ซึ่งเวลานั้นพนักงานต้องขอความร่วมมือแขกที่มาอยู่ ให้อยู่เป็นระเบียบเรียบร้อยไม่กีดขวางทางเดินขบวนพาเหรด
แต่มีหนูน้อยอยู่คนหนึ่งอยู่ๆก็นอนลงบนพื้น มองดูเมฆตอนนั้นเลย ถ้าเป็นเราคงเดินไปบอกน้องให้ลุกขึ้นไปอยู่หลังเส้น
แต่พนักงานดิสนีย์ ซึ่งศรัทธาในความเป็นดิสนีย์
ทำอย่างไรรู้ไหมครับเขาลงไปนอนเหมือนกับน้องคนนั้นและนอนดูเมฆด้วยกัน ถ้าแบรนด์แข็งแรงขนาดทำให้พนักงานหลอกหลอมรวมจิตวิญญาณกันเป็นหนึ่งเดียวกันได้
เขาก็จะทำแบบนี้ล่ะครับ พี่เชื่ออย่างหนึ่งว่าความสามารถของคนทำให้ดู หล่อดูสวยมากขึ้น ขนาดเดียวกัน มันก็ทำให้คนดูมีเสน่ห์ลดลงไปได้เหมือนกันเคยเจอไหมล่ะครับคนที่หน้าตาธรรมดามาก แต่อ้าปากมา โอ้โห ฉลาดจัง เก่งจัง พูดจาคมมาก
กลับกันบางคนหน้าตาดี แต่อ้าปากมาแล้วพูดจางงๆทำงานก็ไม่ได้ เราจะรู้สึกว่าความหล่อความสวยของเขาหายไปเยอะเลย จนไม่รู้สึกถึงเสน่ห์ใดๆ อยู่ด้วยก็เบื่อใคร โดนด่าว่ามีดีแค่หน้าตานี่ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะครับ ฮ่าๆๆ
เรื่องยูนิฟอร์ม พี่แนะนำว่าลองสะท้อนความรู้สึกนี้ให้องค์กรฟัง พี่เชื่อว่าน้องไม่ใช่คนเดียวแน่ๆที่รู้สึกว่าอยากให้ยูนิฟอร์มมันสวยกว่านี้ได้
บางทีการสะท้อนความรู้สึกไปให้องค์กร อาจทำให้การเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้ แต่มันทำให้พนักงานรู้สึกภูมิใจในองค์กร
มั่นใจที่จะทำงานและรู้สึกอยากทำงานด้วยความสุของค์กรก็ได้ประโยชน์เหมือนกันไปด้วย ถ้าน้องสามารถเก็บ comment ที่คนทั้งภายในและภายนอกขององค์กร พูดถึงความรู้สึกที่มีต่อยูนิฟอร์มมาได้และเอาไปบอกองค์กรต่อ ก็น่าจะทำให้ผู้ใหญ่รู้สึกได้ว่าภาพลักษณ์ขององค์กรกำลังไม่ดี ต้องรีบแก้ไข
เสียงสะท้อนของน้องอาจทำให้เพื่อนร่วมงานได้มีชุดทำงานที่สวยขึ้นเสียทีก็เป็นไปได้ ส่วนความสุขส่วนตัวที่คิดว่าอาจเป็นโจทย์สนุกๆให้น้องได้ลองคิดว่าบนข้อจำกัดด้านเสื้อผ้าแบบนี้ น้องจะมีการแต่งตัวเล็กๆน้อยๆอย่างไรให้น้องยังได้มีความสุขและก็ยังได้อยู่ในระเบียบขององค์กร
แทนที่จะบอกตัวเองว่าทำไมวันนี้ ฉันไม่สวยเลย ฉันดูแก่ น้องบอกตัวเองก่อนว่าน่าภูมิใจนะที่น้องมีงานทำน้องดูแลตัวเอง ได้ลองตั้งเป้าหมายว่าวันนี้แล้ว จะออกไปทำงานดีๆไปทำให้คนประทับใจเรา
ไปทำให้ตัวเราเก่งขึ้นและสามารถและให้ความสามารถและทัศนะทัศนคติที่ดีของเรา ส่องประกายทะลุอยู่ในยูนิฟอร์มออกมา
ถ้าเราเก่งและมีทัศนะคติที่ดีซะอย่าง ยูนิฟอร์มก็ฆ่าเราไม่ตายเอาสิ พี่เอาใจช่วยให้น้องได้มียูนิฟอร์มที่สวยขึ้นจากการสะท้อนความรู้สึกไปยังองค์กร แต่เอาใจช่วยมากกว่า คือขอให้น้องมองกระจกไปแล้ว น้องภูมิใจในตัวเองมองเห็นคุณค่า ของตัวเองโดยที่ต่อให้ภาพลักษณ์ภายนอกจะเป็นอย่างไร ก็ทำลายความมั่นใจในตัวเองไม่ได้ คนสวยอยู่ตรงหน้าแล้วครับ
cr: ท้อฟฟี้ แบรคชอว์
 
#
#ยูนิฟอร์ม
#uniform